By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
มีอะไรหลายอย่างที่เราคาดไม่ถึง แม้พอจะรู้อยู่ว่ามันเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของการจับมือรวมพลังของผู้หญิงในช่อง Fox News เพื่อล้มผู้บริหารจอมหื่นที่มีอำนาจล้นมือในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของกระแส #metoo แต่ก็ไม่คิดว่า หนังมันจะเต็มไปด้วยมวลอารมณ์อันหลากหลายเช่นนี้ ทั้งความยียวนกวนบาทาในช่วงแรก (การให้ตัวละคร Megyn Kelly พาผู้ชมเดินชมแต่ละแผนกของ Fox News เพื่อย่นย่อการอธิบายเรื่องราวพื้นหลัง) บรรยากาศตึงเครียดชวนอึดอัดใจที่เกิดขึ้นตลอดเรื่อง และที่สำคัญคือ การรวมพลังของผู้หญิงในเรื่องนี้ มันไม่ได้มาจากการที่พวกเธอได้พูดคุย ปรึกษาหารือ หรือวางแผนอะไรร่วมกันเลย แล้วหากจะคาดหวังว่า เราจะได้เห็นฉากจับมือรวมพลังปราบคนเลว แก๊งเพื่อนสาวกอดคอกันแหวว ปลอบประโลมจิตใจกันและกัน ก็บอกเลยว่า ไม่มี! ซึ่งอะไรตรงนี้นี่ล่ะ ที่มันทำให้เราเข้าใจเลยว่า ทำไมปัญหาการคุกคามทางเพศของผู้หญิงในหลายๆ องค์กร หลายๆ ธุรกิจจึงยังคงอยู่

เพราะการถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้นไม่ใช่เรื่องน่าภาคภูมิใจ ยิ่งเมื่อพวกเธอหลายๆ คนตกไปเป็นเหยื่อในวงจรนี้ เพื่อความอยู่รอดในหน้าที่การงาน การเติบโตในแวดวง หรือพ่ายแพ้แก่อิทธิพลมืด มันจึงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อตนเองด้วย ทำไมเราจึงยอมให้พวกเค้าทำแบบนั้นกับเรา สิ่งที่เราได้มามันคุ้มค่าไหม เรากำลังสูญเสียศักดิ์ศรีในตัวเองไปในหรือเปล่า คนอื่นๆ ล่ะ เค้าจะรู้ไหม เค้าจะมองเราอย่างไร ฯลฯ พวกเธอจึงเลือกเก็บมันเป็นความลับ และบ่อยครั้งที่ความลับ ความทรงจำ หรือการล่วงละเมิดทางเพศที่เกิดขึ้นซ้ำอีก ก็ทำร้ายพวกเธอเรื่อยไปในทุกๆ วัน


 
Charlize Theron รับบทเป็น Megyn Kelly ได้น่าสนใจดี ในความเป็นผู้หญิงแกร่งที่พยายามไต่เต้าเพื่อหน้าที่การงาน มันก็มีอะไรหลายอย่างที่เธอต้องแลกมา แล้วพอสิ่งที่เธอทำมันไม่ใช่การต่อสู้แบบลุยดะ ตัดสินใจฉุบฉับ แต่มันคือการค่อยๆ คิด ค่อยๆ ด้วยความกดดันจากรอบด้าน มันก็ยิ่งทำให้เราต้องลุ้นตามไปด้วย Margot Robbie รับบท Kayla Pospisil ตัวละครสมมติได้ดีงามมาก การเป็นสาวคริสเตียนคนรุ่นใหม่ ยิ่งทำให้สิ่งที่เธอเผชิญและยอมทำนั้นเจ็บไปด้วยความเจ็บปวด แล้วฉากถูกล่วงละเมิดทางเพศนั้นก็โคตรน่าสะเทือนใจเลย Nicole Kidman กับบท Gretchen Carlson ซึ่งเธอต้องสร้างคาแร็คเตอร์นี้โดยไม่สามารถพูดคุยกับ Gretchen ตัวจริงได้ เพราะฝ่ายหลังเซ็นสัญญาจะไม่เปิดเผยข้อมูลกับทาง Fox News ไปแล้ว ก็มาแบบน้อยๆ แต่ก็ทำให้เรายกย่อง Gretchen ตัวจริงมาก และ Kate McKinnon ในบทนักข่าวเลสเบี้ยนสาว เพื่อนซี้ของ Kayla ก็เป็นภาพสะท้อนของความหลากหลายและความอึดอัดกดดันในองค์กรได้ดีมาก กระซิบไว้นิดนึงว่า ประเด็นเลสเบี้ยนใน Bombshell นั้นไม่ได้มีเป็นแค่เพียงไม้ประดับ แต่มันคือส่วนหนึ่งของการสะท้อนเรื่องราวด้วย
 
ชอบมากกับการเลือกทางเดินให้กับแต่ละตัวละคร โดยยังคงมีอีกหลายเรื่องที่ปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นปริศนา เช่น เราเชื่อในสิ่งที่ Megyn ให้ปากคำได้แค่ไหน มันจบลงแค่เธอผลักเค้าออกจริงหรือ? สาวๆ ใน Fox News ไม่เคยได้นั่งพูดคุยถึงเรื่องนี้กันอีกเลยจริงหรือ? ไปจนถึงสิ่งที่ตัวละคร Kayla และเพื่อนนักข่าวเลสเบี้ยนตัดสินใจทำ มันก็บ่งบอกถึงทางเลือกในชีวิตจริงของแต่ละคน ใครบางคนเลือกเดินออกจากองค์กรไปเพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน แต่ใครบางคนก็ไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากจำยอมอดทนก้มหน้าทำงานในองค์กรที่เกลียดต่อไป...