• @TOM NEWS
  • Nov 2022

Bros ชุลมุนวุ่นรักของเกย์วัย 40

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
ในความเป็นหนังโรแมนติกพาฝัน (เจือด้วยกลิ่นคอมเมดี้ตลกหน้าตายแบบหนักๆ) อันว่าด้วยเกย์หนุ่มหล่อหุ่นล่ำมาตกหลุมรักสานสัมพันธ์กับเกย์จิตตก มองโลกในแง่ร้าย และปากร้ายเต็มพิกัด มันกลับดูสมจริงสมจังได้มากขึ้นด้วยรายละเอียดในคาแร็คเตอร์ และอุปสรรคต่างๆ ที่พวกเค้าต้องพบเจอ จนถึงจุดนึง เราก็มองเห็นตัวเอง คนรอบข้าง และความสัมพันธ์ทั้งดีและร้ายที่ผ่านมาในชีวิตของเราเอง ผ่านตัวละครอย่าง Bobby และ Aaron ในหนังเรื่องนี้

ใครจะไปคิดว่าชีวิตของ Bobby เกย์หนุ่มวัย 40 ที่ครองชีวิตเป็นโสดมาตลอด (ไม่นับการนัดเยเย่ผ่านแอพฯ น่ะนะ – ชอบตอนที่เค้าพูดถึงความเหงาอันอบอุ่นหลังจากมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้าผ่านแอพฯ นี้มาก) อยู่ๆ ก็มีเรื่องให้วุ่นวายหัวใจในตอนที่เค้ากำลังง่วนอยู่กับการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ LGBTQ+ กลางนิวยอร์กพอดิบพอดี แล้วหนุ่มคนนั้นก็ดันเป็นเกย์หล่อล่ำผู้แตกต่างจากเค้าแบบสุดขั้ว จากความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นด้วยการที่ประกาศจุดยืนแต่แรกว่า เราไม่ได้เดตกันนะ และเราต่างก็ไม่ได้อยากมีแฟนด้วยกันทั้งคู่ ไปๆ มาๆ ดูเหมือนหัวใจมันจะหวั่นไหวเกินกว่าเส้นที่ขีดเอาไว้ซะแล้วสิ ความเจ๋งของ Bros คือ มันทำให้เราเชื่อในแรงดึงดูดที่ตัวละครมีต่อกันได้ โดยเฉพาะฝั่ง Aaron ที่มองเห็นเสน่ห์ในตัว Bobby ผ่านสิ่งที่เค้าทำ ความมั่นใจในการแสดงออก และตัวตนที่แตกต่างจากตัวเค้า แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อความสัมพันธ์เดินหน้าไป การที่ Aaron ยังหวั่นไหวไปกับหนุ่มๆ หน้าตาดีหุ่นล่ำแบบตัวเค้าเอง มันก็ทำให้ความสัมพันธ์เดินมาถึงจุดที่เปราะบางมาก แล้วอะไรแบบนี้นี่แหละ ที่เราคิดว่ามันช่างสมจริงเหลือเกิน

Billy Eichner 'Bros' movie filmed key scene in Provincetown Cape Cod

ชอบมากๆ ด้วยที่ Bros สะท้อนไลฟ์สไตล์ของเกย์ยุคนี้ผ่านมุกตลกต่างๆ ทั้งการใช้เดตติ้งแอพฯ การเข้ายิมฟิตหุ่น การใช้สเตียรอยด์เร่งกล้าม ความสัมพันธ์และเซ็กส์ที่เปิดกว้างและลื่นไหลมากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงมุกตลกตามสไตล์นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ LGBTQ+ ที่ทำให้เราหัวเราะน้ำตาไหลทุกครั้งที่มีการประชุมของทีมบริหารพิพิธภัณฑ์ LGBTQ+ โอเค มุกตลกแบบนี้มันไม่แมสหรือเข้าถึงคนทั่วไป หรือแม้แต่ LGBTQ+ ทั่วไปหรอก แต่ในฐานะคนที่อยู่ท่ามกลางนักเคลื่อนไหวต่างๆ มาตลอดหลายปี อะไรแบบนี้นี่ล่ะ ถูกจริตเราเป็นที่สุด แล้วพอตัวละครอย่าง Bobby พูดอะไรที่จริงจังถึงประวัติศาสตร์ LGBTQ+ พื้นที่ของเกย์ที่ถูกปิดกั้นกีดกันมาตลอด หรือแม้แต่ฉากระเบิดอารมณ์ที่ว่าด้วยการถูกขอร้องให้ลดทอนความเป็นตัวของตัวเองลง มันก็ทำให้เราน้ำตาไหลอาบหน้า และเกือบจะปล่อยโฮออกมาเลยด้วยซ้ำ

ไม่ว่า Bros จะประสบความสำเร็จด้านรายได้หรือไม่ หรือจะถูกใจใครมากน้อยแค่ไหน มันคือหนังที่สัมผัสแตะต้องตัวตนของเรามากที่สุดเรื่องหนึ่งในปีนี้ การเป็นเกย์ที่เติบโตมาพร้อมกับกรอบอะไรบางอย่าง แสวงหาการยอมรับและการทำความเข้าใจในตัวตนของตัวเองมาตลอดช่วงชีวิตวัยรุ่น การมีความฝันอยากจะมีพิพิธภัณฑ์ LGBTQ+ ดีๆ ในกรุงเทพฯ การทำงานอยู่ท่ามกลางผู้คนที่สนใจประเด็นความหลากหลายทางเพศ รวมถึงมีโอกาสได้เข้าไปคลุกคลีสร้างสรรค์งานหลายๆ ชิ้น สิ่งที่ Aaron พูดในช่วงท้ายๆ ของหนังถึงเพื่อนๆ ชาว LGBTQ+ รวมถึงประวัติศาสตร์ของชาว LGBTQ+ นั้นงดงามมาก ขณะเดียวกัน ในแง่ความเป็นหนังรอมคอม Bros ก็ทำให้เราเชื่อมั่นในความรักของเกย์ แม้ว่ามันจะไม่มีสูตรสำเร็จ และมีเรื่องให้ทุกคู่ต้องเรียนรู้กันไปตลอดระยะเวลาความสัมพันธ์ก็ตามที คีย์เวิร์ดที่สำคัญก็คือ เราทุกคนต่างคู่ควรที่จะมีความรัก และ ณ ที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้ จะมีใครสักคนที่รักคุณอย่างที่คุณเป็น ไม่ว่าคุณจะมีรูปร่างหน้าตาแบบไหน มีโทนเสียงแบบใด หรือแม้แต่ออกสาวแค่ไหนก็ตาม!

Bros “เพื่อนชาย?” เข้าฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์