By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
สานต่อความอิ่มเอมใจกับซีรีส์ที่หลายๆ คนรัก ด้วยเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของ What Did You Eat Yesterday? #เมื่อวานคุณทานอะไร ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์บ้านเราเสียที แล้วเราก็ไม่ผิดหวังเลย รักตัวละคร “ชิโระ” กับ “เคนจิ” มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว มีความสุขมากที่ได้ดูเรื่องราวของพวกเค้าและเมนูอาหารน่าอร่อยบนจอใหญ่ๆ แล้วเราก็นั่งน้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา ทั้งพาร์ตซาบซึ้งปิติสุข และพาร์ตดราม่าที่บอกเลยว่า หนักหน่วงเอาเรื่องเลยล่ะ

ความสัมพันธ์ของคู่รักวัยสี่สิบกว่าๆ ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาพักใหญ่ๆ แต่ก็มีเรื่องให้ต้องเรียนรู้กันและกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อถึงวันที่ความสัมพันธ์ของพวกเค้าอาจจะไม่สอดคล้องกับความหวังของครอบครัว ความแก่ชราที่คืบคลานเข้ามา และชีวิตที่ไม่มีอะไรยืนยันความเป็นคู่ชีวิตของพวกเค้าได้เลย ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งนะที่หนังที่ต่อยอดจากซีรีส์อย่าง What Did You Eat Yesterday? และ Cherry Magic! ต่างก็เล่นกับประเด็นแบบเดียวกัน เพื่อส่องสะท้อนภาพสังคมญี่ปุ่น ในวันที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมของพวกเค้ายังมองไม่เห็นที่ทางใดๆ ได้เลย

มองเห็นตัวละครชิโระซังทาบทับเข้ากับคุณแฟนของเราเอง ในฐานะที่เคยต้องเดินห่างๆ กัน หรือหลบๆ ซ่อนๆ เพราะเค้ายังไม่เปิดตัวกับสังคมในวงกว้าง  สู่วันที่อยู่ๆ เค้าก็ลุกขึ้นมาเปิดตัว Come Out ยิ่งใหญ่อลังการ ทั้งกับครอบครัว เครือญาติ สังคมที่ทำงาน หรือแม้แต่โซเชียลมีเดีย ในความโล่งใจและดีใจที่ได้เดินจับมือกัน หรือโพสต์รูปคู่กันได้เสียที มันยังรู้สึกดีมากๆ ด้วยที่ได้เห็นรอยยิ้มและความสุขแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเค้า แล้วมันก็เป็นรอยยิ้มกว้างๆ แบบเดียวกับที่ชิโระซังมีในเวอร์ชั่นหนังนี้นี่แหละ การได้เป็นตัวของตัวเองมันดีกว่าความพยายามปิดบังหลบซ่อนหรือฝืนเป็นใครคนอื่นอยู่แล้ว!

ดีใจที่เห็นตัวละครรายล้อมต่างๆ กลับมากันครบเลย แล้วก็ไม่ได้แค่โผล่มาเฉยๆ แต่มาเพื่อขับเน้นประเด็นของเรื่องราวหรือตั้งคำถามกับตัวละครกันทั้งหมด แล้วก็ชอบมากๆ ด้วยที่หนังบาลานซ์โทนอารมณ์ของหนังให้ออกมาใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นซีรีส์ได้ดีมากๆ คือมันมีทั้งมวลตลกบ้าบอ โรแมนติกหวานๆ ดราม่าที่คลี่คลายลงในโทนอบอุ่นหัวใจ และยังมีซีนทำอาหารที่แค่ได้ยินสกอร์เพลงประจำซีรีส์เราก็ยิ้มจนแก้มปริแล้ว

“ฮิเดโตชิ นิชิจิมะ” ยังเป็นชิโระซังที่ทั้งเท่ทั้งน่ารักเหมือนเดิม เพียงแต่เราได้เห็นพัฒนาการของตัวละครของเค้ามากขึ้น ทั้งโหมดอ่อนไหว โหมดจริงจัง และโหมดยิ้มสว่างไสว ส่วน “เซโย อุจิโนะ” ก็ทำให้เคนจิยังเป็นเคนจิที่น่ารักแบบขาดๆ เกินๆ เหมือนเดิม แล้วเราก็ชอบมากๆ กับการเปลี่ยนแปลงในช่วงท้ายเรื่องของตัวละครนะ!