• @TOM NEWS
  • Apr-May 2025

23.5 องศาที่โลกเอียง เมื่อ มิ้ลค์ - เลิฟ สลับโพล

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
เพราะติดตามคู่ "มิ้ลค์ - เลิฟ" (มิ้ลค์ - พรรษา วอสเบียน และ เลิฟ - ภัทรานิษฐ์ ลิ้มปติยากร) มาตั้งแต่ “แค่เพื่อนครับเพื่อน (Bad Buddy Series) พอได้เห็นทั้งคู่กลับมาสานต่อเคมีกันในซีรีส์แซฟฟิกแบบเต็มๆ เรื่อง “23.5 องศาที่โลกเอียง” ก็เลยเป็นซีรีส์ที่เราตั้งใจดู (แม้จะดูจบช้าไปหน่อยก็เถอะ) แล้วมันก็มีเรื่องเซอร์ไพรส์ผิดจากที่คาดไว้เต็มไปหมดเลย!

ถึงจะรู้อยู่ว่า เรื่องราวของ “23.5 องศาที่โลกเอียง” จะเกิดขึ้นในรั้วโรงเรียน แต่ก็ไม่ได้คิดว่า โรงเรียนในเรื่องมันจะดูเกินจริง เหมือนอยู่ในโลกการ์ตูนแบบนี้ ไม่สิ ต้องบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในซีรีส์มันมีความเป็นการ์ตูน/อนิเมะมากๆ เลย คาแร็คเตอร์/ตัวละครต่างๆ เอย วิธีการเล่าเรื่อง/เส้นเรื่องเอย ไปจนถึงการแสดงของนักแสดงก็ด้วย! โดยเฉพาะตัวละครหลักอย่าง “องศา” (รับบทโดย มิ้ลค์ - พรรษา วอสเบียน) ที่การ์ตูนมาก การ์ตูนจัดๆ ความเป็นสาวเปิ่น เก็บตัว เข้าสังคมไม่เป็น พอถูกเติมด้วยความงอแง โวยวาย การพูดกับตัวเองออกมาดังๆ (หรือคุยกับน้องหมา) ไปจนถึงการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ในชีวิตด้วยวิธีคิดที่ช่างอ่อนต่อโลก ทั้งหมดนี้มันก็เสี่ยงมากๆ ที่จะทำให้องศากลายเป็นตัวละครน่ารำคาญ (หรือไม่น่าเอาใจช่วย) แต่พอตัวละครนี้ถูกถ่ายทอดโดยมิ้ลค์ มันช่างน่ารักน่าหยิกซะจริงๆ การบาลานซ์ความเกินจริงของท่าทางการแสดงออก กับความรู้สึกข้างในของตัวละคร มิ้ลค์ทำมันได้ดีมากๆ เลย แล้วมันก็ทำให้เราเชื่อด้วยว่า มีคนอย่างองศาอยู่บนโลกใบนี้จริงๆ ปรบมือให้ดังๆ เลย!

ความน่าทึ่งและเซอร์ไพรส์ประการสำคัญก็คือ การสลับโพลของคู่ "มิ้ลค์ - เลิฟ" จากการรับบทเป็นสาวเท่ใน “แค่เพื่อนครับเพื่อน” มาเรื่องนี้มิ้ลค์กลายเป็นสาวเปิ่นที่แอบชอบอีกฝ่ายแบบคลั่งรัก แล้วจากการรับบทเป็นสาวน้อยที่แอบชอบรุ่นพี่จากเรื่องที่แล้ว พอมาเรื่องนี้เลิฟกลับกลายเป็นสาวป๊อปประจำโรงเรียน แล้วเคมีของความเป็นเจ้าตัวเล็ก-เจ้าตัวสูงของ "มิ้ลค์ - เลิฟ" พอมาอยู่ใน “23.5 องศาที่โลกเอียง” มันก็ยังทำงานเหมือนเดิม เพียงแต่มันทำงานในอีกรูปแบบ!

ชอบมากๆ ด้วยที่มันไม่ได้เล่าแต่เรื่องรักโรแมนติกของตัวละครหลัก และตัวละครรอง แต่มันเล่าเรื่องมิตรภาพ ความหมายของคำว่าเพื่อน ไปจนถึงความสำคัญของครอบครัวด้วย สมกับเป็นซีรีส์ในรั้วโรงเรียนมัธยมปลายจริงๆ แล้วการเล่าความสัมพันธ์ของคุณครูทรานส์สองคนที่อยู่ๆ ก็สปาร์คขึ้นมานั่นอีก มันช่างงดงามมากๆ ยิ่งเมื่อเราพบว่า การเล่าเส้นเรื่องนี้ไม่ได้มีท่าทีล้อเลียน หรือตั้งใจให้มันเป็นมุกตลกเลย แต่มันนำเสนออย่างจริงจัง และเข้าอกเข้าใจ

การฉาบหน้าไว้ด้วยการเป็นซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ ที่มีอะไรโอเวอร์เกินจริง และการ์ตู้นการ์ตูน กลับมีแง่งามระหว่างทางให้เราซาบซึ้ง ประทับใจอยู่เป็นระยะๆ (ไม่รวมการตัดสินใจแสนงี่เง่าของตัวละครทั้งหลายน่ะนะ – ซึ่งก็ต้องเตือนตัวเองบ่อยๆ ว่า ก็ดูคาแร็คเตอร์ตัวละครสิ มันก็ต้องคิดแบบนี้แหละ หรือ ก็เด็ก ม.ปลาย อ่ะเนอะ จะให้คิดโตเกินวัยได้ยังไง)

ดู 23.5 องศาที่โลกเอียง ได้ที่ YouTube ของ GMMTV และ Netflix