• @TOM NEWS
  • May 2023

เตรียมดูละครวิทยานิพนธ์ Hedwig and the Angry Inch เพลงร็อก เรื่องเพศ และการก้าวข้ามตัวตน

By : Ruta
Hedwig and The Angry Inch เป็นละครเวทีมิวสิคัลอวลกลิ่นร็อก ผลงานแต่งเพลงโดย Stephen Trask และตัวเรื่องโดย John Cameron Mitchell ซึ่งทำการแสดงในปี 1998 แล้วโด่งดังจนมีโอกาสได้พัฒนากลายมาเป็นภาพยนตร์อินดี้ที่แจ้งเกิดให้กับ John Cameron Mitchell ทั้งในฐานะคนเขียนบท กำกับภาพยนตร์ และรับบทนำเป็นกะเทยสาวร็อกเกอร์นาม Hedwig ด้วยตัวเอง

แล้วในปีนี้ ก็จะเป็นโอกาสสำคัญอีกครั้ง เมื่อละครเวที Hedwig and The Angry Inch จะกลายมาเป็นเวอร์ชั่นไทย กับผลงานละครวิทยานิพนธ์ Hedwig and The Angry Inch เรื่องราวการค้นหาตัวตนอันแสนสับสนของ Hedwig กะเทยสาวที่เป็นนักร้องนำวงร็อก ผ่านความรัก การทรยศหักหลัง การแก้แค้น และความเจ็บปวด โดยมีเพลงร็อกทั้งหลายเป็นตัวเล่าเรื่อง

ความน่าสนใจของเวอร์ชั่นนี้นั้นอยู่ที่การเลือกนักแสดงผู้มีฝีไม้ลายมือทางดนตรีมารับบทนำ โดย ปัถวี เทพไกรวัล (ออม Amadiva) แดรกควีน, ศิลปินเพลงร็อก และนักแสดงละครเวที จะมารับบทเป็น Hedwig และ กุลจิรา ทองคง (เอ้ The Voice) ศิลปินนักร้องผู้มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์จะมารับบทเป็น Yitzhak ชายหนุ่มผู้อยู่เคียงข้าง Hedwig ไปพร้อมกับค้นหาตัวเองด้วย (ไม่ต้องตกใจและสงสัยว่า ทำไมบทนี้ต้องเล่นโดยนักแสดงหญิง เพราะเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เวอร์ชั่นละครเวทีต้นฉบับ ภาพยนตร์ รวมถึงเวอร์ชั่นละครเวทีที่เคยดัดแปลงเป็นภาษาไทยมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน)

บทละคร โดย จอห์น คาเมรอน มิตเชลล์
แต่งเพลง โดย สตีเฟน แทรสก์
กำกับการแสดง โดย สิรภพ อัตโตหิ

เตรียมเปิดการแสดง 3 รอบ ในวันที่
12 พ.ค. 2566 เวลา 19.30 น.
13 พ.ค. 2566 เวลา 19.30 น. (มีเสวนาหลังจบการแสดง)
14 พ.ค. 2566 เวลา 19.30 น.
ณ ศูนย์ศิลปการละครสดใส พันธุมโกมล ชั้น 6 อาคารมหาจักรีสิรินธร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รับชมฟรี! สำรองที่นั่งวันที่ 3 พ.ค. เวลา 19.00 น. เป็นต้นไปทางเว็บไซต์ Ticketmelon

คำเตือน การแสดงมีดนตรีสดที่ใช้เสียงดัง มีการใช้ไฟ Strobe มีเนื้อหาสื่อไปถึงความรุนแรงทางเพศและการใช้คำหยาบคาย เหมาะสำหรับผู้ชมอายุ 15 ปีขึ้นไป

การแสดงนี้เป็นส่วนหนึ่งของศิลปนิพนธ์ของนิสิตในหลักสูตรอักษรศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาศิลปการละคร (สาขากำกับการแสดง) ในหัวข้อ "การนำเสนอประเด็นเควียร์ผ่านการกำกับการแสดงบทละครเพลงเรื่อง Hedwig and The Angry Inch"