• @TOM NEWS
  • Dec 2017

Call Me by Your Name ฤดูร้อนนั้น...ฉันรัก

Photos : Call Me by Your Name
By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง
จริงอยู่ว่าพล็อตของ Call Me by Your Name นั้นออกจะง่ายและเสี่ยงต่อการกลายเป็นหนังเกย์ง่อยๆ มาก แต่พอมันอยู่ในมือผู้กำกับเก๋ๆ เปี่ยมรสนิยมอย่าง Luca Guadagnino มันก็กลายเป็นหนังท่วมท้นอารมณ์และโคตรฉลาดไปเสียอย่างนั้น กับเรื่องราวฤดูร้อนหนึ่งในอิตาลีของ Elio เด็กหนุ่มวัย 17 ผู้ตกหลุมรักและได้สานสัมพันธ์กับ Oliver นักวิชาการหนุ่มหล่อ ซึ่งเดินทางมาจากอเมริกาเพื่อมาเป็นผู้ช่วยของพ่อของ Elio

ยอมรับตามตรงว่า ช่วงเวลาครึ่งแรกของหนัง เราเผลอไผลไปจดจ่ออยู่กับการสปาร์คกันของตัวละคร ซึ่งกว่าจะมาถึงก็เนิ่นนานจนน่าหงุดหงิด แต่กลายเป็นว่า พอหนังจบลง เรากลับชอบช่วงเวลาที่ “อ่านยาก” ในตอนต้นนี้มาก ในความเงียบงัน เฉยชา ห่างเหิน น่าอึดอัด หากมองให้ดี มันกลับเต็มไปด้วยแรงปรารถนาอันยากจะต้านทาน และต่างฝ่ายต่างต้องทรมานกับความลุ่มหลงในกันและกันมากแค่ไหน

Call Me by Your Name ทำให้เราย้อนกลับไปสัมผัสความรู้สึกอันพลุ่งพล่านของตัวเองในวัยเยาว์อีกครั้ง ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราตระหนักได้ว่า เราไม่อาจจะกลับไปรักใครได้เหมือน “รักแรก” ได้อีกแล้ว ความรู้สึกดีอันแผ่ซ่านไปทุกอณูเมื่อได้รับรักตอบนั้นดีแค่ไหน แล้วมันกลับยิ่งเจ็บเมื่อความสัมพันธ์นั้นต้องจบลง และเมื่อความเจ็บปวดมันสอนให้เราแข็งแกร่งขึ้น เราก็ไม่มีทางกลับไปเป็นคนเดิมที่รักใครได้เต็มหัวใจอีก เหมือนมันจะเป็นความทรงจำที่เลวร้าย แต่สิ่งที่พ่อของ Elio พูดก็กระชากเรากลับมามองความทรงจำนั้นในอีกรูปแบบนึง ... ความรักมันช่างเจ็บปวดและงดงาม แต่เราโชคดีแค่ไหนที่เคยได้สัมผัสครอบครองมัน

Image result for call me by your name

เช่นเดียวกับการ “ค้นพบ” และ “ตระหนักรู้” ในตนเองของชาว LGBT ทั้งหลาย การค้นพบและยอมรับในตัวเองของ Elio นั้นช่างละม้ายคล้ายกับเรื่องของเราหรือคนใกล้ตัวเหลือเกิน แต่นี่ไม่ใช่ตัวละครในซีรี่ส์วายชวนจิ้นที่แสนซ้ำซาก ความเป็นมนุษย์ของ Elio นั้นช่างมีมิติ ซับซ้อน และน่ามหัศจรรย์

Timothée Chalamet นักแสดงหนุ่มวัย 22 มารับบทเป็น Elio ที่ไม่สื่อสารความคิดภายในใจใดๆ ออกมาเป็นคำพูดได้อย่างลึกซึ้ง ความสุข ความเศร้า ความอัดอั้น และน้ำตาที่ไหลออกมานั้น เราเข้าใจ... เข้าใจโดยที่เค้าไม่ต้องเปล่งเสียงว่าเจ็บแค่ไหน Armie Hammer กับบท Oliver ก็ได้ฉายเสน่ห์ออกมาในทุกการเคลื่อนไหว มากไปกว่านั้นเค้าทำให้เราได้เห็นด้านอันอ่อนไหวของ Oliver ด้วย และนั่นแหละที่ทำให้เราเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างคนทั้งคู่มันคือความรัก ความชื่นชม หาใช่ความลุ่มหลง หรือแค่ความใคร่

งานภาพของ สยมภู มุกดีพร้อม ผู้กำกับภาพชาวไทยก็ดีงามสมคำร่ำลือ เช่นเดียวกับเพลงประกอบของ Call Me by Your Name ที่ Luca Guadagnino ผู้กำกับเป็นคนเลือกเองทุกแทร็ก ซึ่งกลายเป็นอัลบั้มโปรดที่เราเปิดฟังวนๆ เวลาเขียนงานตลอดหลายวันที่ผ่านมา

ว่ากันว่านี่คือหนังปิดไตรภาคแรงปรารถนาของ Luca Guadagnino อันประกอบไปด้วย I Am Love (2009) and A Bigger Splash (2015) และ Call Me by Your Name (2017) ยิ่งทำให้เราอยากไปตามล่าดู I Am Love ที่ยังขาดอยู่ ... น่าสนใจไปว่านั้น Luca Guadagnino ให้สัมภาษณ์ในเทศกาลหนัง BFI London Film Festival ว่าเค้ามีแผนจะทำภาคต่อของ Call Me by Your Name ในปี 2020 เอ๊า โปรดติดตามกันต่อไป! ​

#CallMeByYourName เข้าฉายแล้ววันนี้ที่โรงภาพยนตร์ House RCA ที่เดียวเท่านั้น!!