• @TOM NEWS
  • Jan 2022

10 อันดับหนัง LGBTQ ประจำปี 2021

By : ชีวิตผมก็เหมือนหนัง

ตามธรรมเนียมเป็นประจำทุกปี เราขอให้เพจ ชีวิตผมก็เหมือนหนัง จัดอันดับ 10 อันดับหนัง LGBTQ (เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กช่วล ทรานส์ และเควียร์) ประจำปี 2021 ให้กับ @tom actz และนี่คือลิสต์ที่เราอยากให้ทุกคนได้ตามเก็บชมให้ครบ!
 

1. The Cornered Mouse Dreams of Cheese (2020)

เคียวอิจิ โอโตโมะ ชายหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่แอบนอกใจภรรยาเสมอ ได้พบกับ วาตารุ อิมางาเซะ รุ่นน้องสมัยเรียนมหา’ลัย ที่ตอนนี้ทำงานเป็นนักสืบเอกชน ซึ่งตั้งใจมายื่นข้อเสนอกับเค้าว่าจะไม่เอาเรื่องที่เขานอกใจภรรยาไปเปิดเผย โดยแลกกับการที่เค้าจะต้องยอมจูบกับหนุ่มรุ่นน้องคนนี้! แล้วเรื่องมันก็ค่อยๆ เลยเถิดไปเรื่อยๆ จนเกินกว่าที่ทั้งคู่จะคาดคิด
 

2. Supernova (2020)

Tusker เป็นนักเขียนนิยายที่กำลังเผชิญภาวะโรคสมองเสื่อม และเขาก็ตัดสินใจว่าจะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนๆ และญาติมิตรพร้อมกับ Sam คนรักที่คบกันมานานหลายสิบปีด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่อะไรๆ จะแย่ลงไปกว่านี้ และเขาคงจะจำอะไรหรือใครไม่ได้อีกต่อไปแล้ว โดยตลอดเส้นทางนี้ เราจะได้เห็นอาการที่แย่ลงเรื่อยๆ ของ Tusker พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ทรมานกันทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝั่งที่ทำใจได้ยากเหลือเกินว่า เค้ากำลังจะกลายเป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เป็นภาระอันเปล่าประโยชน์ หรือกำลังจะสูญสิ้นความเป็นตัวเองไป จนอาจจะไม่ใช่คนที่แฟนหนุ่มเคยรักอีกต่อไป หรือฝั่งที่ต้องคอยดูแลคนป่วยซึ่งอาจเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นได้ทุกเมื่อ อย่างการหายตัวไปเพราะหลงทาง หรือสูญเสียความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันไปทีละอย่างสองอย่าง


3. Little Girl (2020)

Sasha เด็กน้อยวัย 7 ขวบที่เกิดมาในร่างเด็กผู้ชาย แต่เธอรู้ตัวมาตลอดว่าตนเองเป็นเด็กผู้หญิง ใช่ เธอคือผู้หญิงข้ามเพศ หรือ Transgender นั่นเอง โชคดีเหลือเกินที่ครอบครัวของเธอ ทั้งพ่อแม่ พี่สาว พี่ชาย ต่างก็สนับสนุน Sasha ในทุกด้าน ทว่าปัญหาใหญ่ในตอนนี้ก็คือ โรงเรียนอันเป็นพื้นที่สำคัญในการเติบโตของเด็กๆ เยาวชน ไม่เปิดรับ เข้าใจ หรือสนับสนุนให้ Sasha ได้เป็นตัวของตัวเอง เธอยังต้องสวมใส่ชุดเด็กผู้ชายไปโรงเรียน และถูกปฏิบัติราวกับเป็นเด็กผู้ชาย แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอก หรือครอบครัวของเธอจะยืนกรานแค่ไหนว่า Sasha คือเด็กผู้หญิง คุณแม่ของ Sasha จึงตัดสินใจพาลูกสาวของตนเดินทางเข้าเมืองไปพบคุณหมอเฉพาะทาง ซึ่งพร้อมสนับสนุน Sasha เช่นกัน แต่ถึงอย่างไร Sasha และครอบครัวก็ต้องงัดข้อกับครูใหญ่ คุณครู และโรงเรียนอยู่ดี ยังไม่รวมถึงสังคมภาพกว้างที่พวกเค้าต้องเผชิญปัญหาอีกหลายครั้งหลายหน
 

4. อนินทรีย์แดง (2020)

เรื่องราวของ “อังค์” สายลับกะเทยผู้มีชีวิตอีกด้านเป็นกระหรี่ กับภารกิจใหม่ล่าสุดที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้เขาไปตีสนิทกับ “จิตร” หนุ่มนักศึกษาผู้ถูกสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการบางอย่าง และครั้งนี้อังค์จะต้องสลัดคราบกะเทยแต่งหญิงทิ้งไปเสีย เพราะเธอจะต้องกลายเป็น “อิน” เกย์หนุ่มสวมแว่นท่าทางเรียบร้อย เพื่อทำให้จิตรตกหลุมรักให้ได้


5. The Boys in the Band (2020)

เรื่องวุ่นๆ ของแก๊งเพื่อนเกย์ที่มารวมตัวกันในอพาร์ตเมนต์ของ Michael เพื่อจัดงานวันเกิดให้กับ Harold ผู้มีภาพลักษณ์เป็นผู้นำของกลุ่มเพื่อน ทว่าในเวลาเดียวกันกับที่แก๊งเพื่อนสาวจะได้มาเจอหน้าแกะของขวัญกัน Michael ก็ต้องต้อนรับ Alan เพื่อนชายแท้ (?) ที่เขาแอบชอบมาตลอด ซึ่งโผล่มาโดยมิได้นัดหมาย แล้วด้วยความรัก ความแค้น เจือด้วยโทสะอีกนิดหน่อย Michael ก็แปรเปลี่ยนงานปาร์ตี้ให้กลายเป็นสงครามจิตวิทยา เมื่อพวกเค้าต้องเล่นเกมท้าให้ “โทรหาคนที่รักมากที่สุด แล้วบอกรักคนคนนั้น” แล้วนั่นก็ทำให้แต่ละตัวละครได้เปิดเผยบาดแผลของตัวเองออกมา บอกเลยว่า งานนี้ดราม่าเล่นใหญ่ และพลิกผันกันสนุกเลยล่ะ


6. Hating Peter Tatchell (2021)

Peter Tatchell เป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิ ที่ทำงานเน้นหนักไปที่ประเด็นความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ+ มากว่า 50 ปี (และยังทำงานตรงนี้อยู่ในวัย 69 ปี) แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ร่วมขับเคลื่อนประเด็นที่สะท้อนความไม่ยุติธรรมในสังคมทั่วโลกอีกมากมาย ทั้งในประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ สงคราม สิ่งแวดล้อม เชื้อชาติ สีผิว หรือแม้แต่ศาสนา ความน่าสนใจในการทำงานของ Peter Tatchell ก็คือการใช้สื่อมวลชนเป็นเครื่องมือในการกระจายเสียงของเขาให้ดังกังวานไปทั่วสังคม (หรือทั่วโลก) และใช้ตัวเขาเองนี่ล่ะที่สร้างให้เกิดกระแส
 

7. Dance of the Forty One (2020)

นี่คือเรื่องราวของ Ignacio ชายหนุ่มผู้ทะเยอทะยาน ที่เพิ่งแต่งงานกับภรรยาสาวสวย พร้อมกับก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งลูกเขยของท่านประธานาธิบดีแห่งเม็กซิโกในช่วงปี 1880 (ยึดตามข้อมูลจริงทางประวัติศาสตร์) ทว่าเค้ากลับทำตัวห่างเหินหมางเมินกับภรรยา เพราะที่จริงแล้วเค้าเป็นเกย์ และพึงใจจะใช้เวลาว่างอยู่กับสมาคมลับที่เหล่าเศรษฐีผู้ดีไฮโซคนในแวดวงการเมืองมารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองความเป็นเกย์และเควียร์ของตนกันอย่างลับๆ ต่างหาก แถมดูเหมือนว่า Ignacio จะพบรักกับหนุ่มหนวดงามคนใหม่เสียด้วย แล้วในช่วงเวลาแสนบีบคั้นเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างเค้ากับภรรยามาถึงทางตัน ในคืนสำคัญที่สมาชิกสมาคมลับทั้ง 42 คนได้จัดงานปาร์ตี้แต่งหญิงเต้นรำกัน จู่ๆ ก็มีการบุกเข้าจับกุมพวกเค้า แต่ เอ๊ะ ทำไมชื่อเรื่องถึงเป็น “การเต้นรำของ 41 คน” ล่ะ? คำตอบอยู่ท้ายเรื่องจ้ะ
 

8. The Prom (2020)

เมื่อ 2 นักแสดงละครบรอดเวย์ชื่อดังถูกโจมตีไม่มีชิ้นดีจากมิวสิคัลเรื่องล่าสุด เหล้ารินใส่แก้วถูกส่งให้กันไปจนได้ที่ ทั้งคู่พร้อมด้วยเพื่อนนักแสดงละครเวทีตกอับจึงตัดสินใจหาหนทางกอบกู้ชื่อเสียงด้วยการทำความดีตามกระแส อย่างการไปช่วยรณรงค์ให้ชุมชนอนุรักษนิยมสุดโต่งเปิดใจยอมรับเด็กสาวเลสเบี้ยน หลังจากที่โรงเรียนประกาศงดจัดงานพรอม เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กสาวเลสเบี้ยนอย่างเธอเข้าร่วมงานโดยสร้างค่านิยมผิดๆ อย่างการแต่งกายข้ามเพศ หรืออาจจะจูงมือแฟนสาวเข้าร่วมงานพรอม!
 

9. Happiest Season (2020)

Harper เอ่ยปากชวน Abby คนรักของเธอไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ทุกอย่างดูน่าจะราบรื่นดี จนกระทั่ง Abby เพิ่งรู้ว่า Harper ยังไม่ได้เปิดตัวกับครอบครัวว่าเป็นเลสเบี้ยน และพ่อของเธอกำลังจะลงเล่นการเมืองในตอนนี้ ดังนั้น ทั้งคู่จึงต้องเล่นละครตบตาทุกคนว่าเป็นเพียงแค่รูมเมต และเอาตัวรอดไปให้ได้ตลอดรอดฝั่งจนกว่าเทศกาลคริสต์มาสนี้จะจบลง นั่นแหละ หนังจึงมาพร้อมด้วยสถานการณ์ชวนหัวต่างๆ ที่ทั้งคู่จะต้องหลบเลี่ยงและพยายามปิดซ่อนไม่ให้ใครรู้ว่าพวกเธอเป็นเลสเบี้ยนและเป็นแฟนกัน


10. I Care a Lot (2020)

Marla Grayson หญิงสาวผู้ทำงานที่ผู้พิพากษาชื่นชมว่าช่างมีเมตตาเหลือเกิน เพราะเธอได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือดูแลเหล่าคนชราที่อ่อนแอ เจ็บป่วย หรือไม่สามารถดูแลตัวเองได้ บ้างมีอาการทางสมอง บ้างนอนติดเตียง และหลายรายปราศจากลูกหลานคอยดูแล แล้วมันก็เป็นหน้าที่ของ “ผู้พิทักษ์” (The Guardian) อย่างเธอที่จะเข้ามาช่วยเหลือจัดการส่งตัวพวกเค้าเข้าสู่บ้านพักคนชรา ดูแลเรื่องจิปาถะต่างๆ ตามกฎหมาย รวมถึงเรื่องเงินๆ ทองๆ ด้วย ทว่า Marla ไม่ใช่นักบุญอย่างที่ใครคิด เธอเป็นนักธุรกิจ ... ไม่สิ! เธอเป็นอาชญากรต่างหาก เพราะเธอและ Fran คนรักสาวจับมือร่วมกับคุณหมอที่ดูแลผู้สูงอายุ มองหาคนแก่รวยๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จัดการส่งเรื่องขึ้นศาลเพื่อให้พิจารณาส่งตัวพวกเค้าไปอยู่บ้านพักคนชรา แล้วเธอจะเป็นคนดูแลพิทักษ์ประโยชน์ต่างๆ ให้เอง (โดยเฉพาะเรื่องเงินๆ ทองๆ) และหลังจากทำเช่นนี้มาแล้วเป็นสิบๆ ราย Marla ไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังจะเจอกับโจทย์หิน เพราะหญิงแก่ท่าทางธรรมดาๆ อย่าง Jennifer ที่ถูกเธอจัดการส่งตัวไปบ้านพักคนชราสดๆ ร้อนๆ นั้นมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่าที่เห็น